ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า “พรีไบโอติก” (Prebiotics) กลายเป็นคำที่คนรักสุขภาพพูดถึงกันบ่อยมากขึ้น หลาย ๆ คนอาจจะทราบถึงสรรพคุณของพรีไบโอติกว่ามีประโยชน์หลากหลาย ช่วยบำรุงร่างกาย และมีส่วนสำคัญในการสร้างสมดุลให้กับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย คนที่ใส่ใจสุขภาพจึงเริ่มให้ความสนใจเรื่องการกินพรีไบโอติกในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเสริมให้ร่างกายแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จริง ๆ แล้วยังมีอีกหนึ่งในพรีไบโอติกที่มีสรรพคุณโดดเด่นและได้รับความสนใจอย่างมาก นั่นก็คือ “อินูลิน” (Inulin) อินูลินเป็นใยอาหารจากธรรมชาติที่พบในพืชหลายชนิด ไม่ใช่แค่ใยอาหารธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น สนับสนุนการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายอีกด้วย
แล้วอินูลินคืออะไร?
อินูลิน (Inulin) จัดเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) ประเภทหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของ ฟรุกแทน (Fructan) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ของฟรุกโตส (Fructose) ที่เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไกลโคซิดิกชนิด β−(2,1) (beta-(2,1) glycosidic bonds) โครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างจากแป้งและน้ำตาลทั่วไปทำให้อินูลินไม่ถูกย่อยหรือดูดซึมในระบบทางเดินอาหารส่วนบนของมนุษย์ เช่น กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก แต่จะเคลื่อนที่ลงสู่ลำไส้ใหญ่โดยตรง
เมื่ออินูลินเดินทางไปถึงลำไส้ใหญ่ มันจะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับแบคทีเรียโพรไบโอติก (Probiotics) หรือแบคทีเรียดีในลำไส้ เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli ซึ่งจะทำการหมักอินูลิน ทำให้เกิดกรดไขมันสายสั้น (Short-Chain Fatty Acids - SCFAs) เช่น อะซิเตท (Acetate), โพรพิโอเนต (Propionate), และบิวทิเรต (Butyrate) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพลำไส้และสุขภาพโดยรวม
หรือแบบที่เข้าใจง่าย ๆ “อินูลิน” คือ พรีไบโอติกชนิดหนึ่งที่พบได้ในลำไส้ส่วนล่าง โดยเป็นกากใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อแบคทีเรียดี ทำให้แบคทีเรียดีสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ลำไส้จึงทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจากการรักษาสมดุลภายในได้ ทำให้การมีอินูลินที่เพียงพอช่วยส่งผลให้สุขภาพร่างกายและกระบวนการทำงานของร่างกายดีขึ้น
จุดสำคัญอย่างหนึ่งของอินูลินคือการที่เป็นพรีไบโอติกที่ไม่สามารถย่อยสลายและดูดซึมในลำไส้เล็กได้ อินูลินจึงไม่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลถึงแม้ว่าจะเป็นแป้งชนิดหนึ่งก็ตาม ทำให้อินูลินไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเหมือนแป้งอื่น ๆ อินูลินจึงเป็นพรีไบโอติกที่น่าสนใจต่อผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง
อินูลิน ทำงานอย่างไร?
การทำงานของอินูลินในลำไส้เล็ก มีกระบวนการคือ ลำไส้เล็กจะเปลี่ยนอินูลินให้กลายเป็นกรดไขมันสายสั้น (Short-Chain Fatty Acids) ซึ่งกรดไขมันสายสั้น หรือ SCFA นี้คือส่วนช่วยที่สำคัญของการบำรุงเซลล์ลำไส้ อินูลินจึงเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยทำให้กระบวนการทำงานของร่างกายโดยเฉพาะการทำงานของลำไส้เล็กเป็นไปได้อย่างสมดุล ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและทางเดินอาหารนั้นแข็งแรงมากขึ้น
ประโยชน์ของอินูลิน
อินูลินมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากคุณสมบัติการเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ มาดูกันว่าอินูลินประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
1. ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้และการขับถ่าย
- เพิ่มจำนวนแบคทีเรียดี อินูลินเป็นอาหารให้แก่แบคทีเรียโพรไบโอติกในลำไส้ ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียเหล่านี้ การมีแบคทีเรียดีในปริมาณที่เพียงพอช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค ลดความเสี่ยงของอาการท้องเสีย ท้องผูก และโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome - IBS)
- ปรับปรุงการขับถ่าย ใยอาหารละลายน้ำอย่างอินูลินจะช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ ทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น และช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ลดปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
- สร้างกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) การหมักอินูลินโดยแบคทีเรียในลำไส้จะผลิต SCFAs โดยเฉพาะบิวทิเรต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่ (Colonocytes) ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของเยื่อบุลำไส้ ลดการอักเสบ และอาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
2. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แม้ว่าอินูลินจะเป็นพอลิเมอร์ของฟรุกโตส แต่เนื่องจากโครงสร้างที่ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก จึงไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำตาลทั่วไป นอกจากนี้ การบริโภคใยอาหารยังช่วยชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
3. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
อินูลินเป็นใยอาหารที่เพิ่มปริมาณในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และลดการบริโภคอาหารในมื้อถัดไป ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ อินูลินยังมีแคลอรีต่ำ (ประมาณ 1.5-2.0 กิโลแคลอรีต่อกรัม) ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานสูงกว่า
4. เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอินูลินอาจช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียมในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกและฟัน รวมถึงการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ การดูดซึมแร่ธาตุที่ดีขึ้นอาจช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้
5. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การมีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สมดุลมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เนื่องจากลำไส้เป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย การที่อินูลินช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีในลำไส้ จึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลาย ๆ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะได้เห็นสรรพคุณ และประโยชน์ของอินูลินแล้ว คงอยากรู้กันแล้วละสิว่าอินูลินมากจากที่ไหนบ้าง จริง ๆ แล้ว อินูลินพบได้ตามธรรมชาติในพืชหลายชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็น
1. รากชิโครี
รากชิโครี หรือ Chicory Roots เป็นสมุนไพรที่พบได้ในฝั่งยุโรปและอเมริกา จัดอยู่ในตำรับยาที่ช่วยลดอาการท้องผูก เนื่องจากมีอินูลินเป็นส่วนประกอบหลักมากถึง 68 กรัม ต่อรากแห้ง 100 กรัม จึงทำให้โพรไบโอติกแข็งแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ดี
2. กระเทียม
กระเทียม เป็นอาหารที่มีอินูลิน 12.5 กรัม จาก 100 กรัม ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง กระเทียมเป็นพืชที่อยู่ในการปรุงอาหารหลายชนิดจึงเป็นส่วนช่วยเติมอินูลินได้โดยธรรมชาติ ผู้ที่กินอาหารที่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบเป็นประจำจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับอินูลินอย่างเพียงพอและมีความต่อเนื่อง นอกจากนี้กระเทียมยังมีวิตามินอย่างวิตามิน C และวิตามิน B6 ที่ดีต่อร่างกายด้วย
3. หอมหัวใหญ่
หอมหัวใหญ่ อีกหนึ่งพืชมีประโยชน์ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร และเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีอินูลินเป็นส่วนประกอบ โดยการกินหอมหัวใหญ่จะช่วยลดไขมันได้ดีและกระตุ้นการย่อยอาหารจึงเป็นส่วนหนึ่งของการปรับให้ระบบการทำงานของทางเดินอาหารและลำไส้นั้นมีประสิทธิภาพ ช่วยขับลมและของเสียออกจากร่างกายได้
4. กล้วย
กล้วย เป็นสิ่งที่เหมาะต่อการเติมอินูลินให้กับร่างกายสำหรับคนที่อยากหาทางเลือกที่ไม่ใช่ผัก โดยกล้วยมีอินูลิน 0.5 กรัม จาก 100 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่สูงมากนักแต่เหมาะสมต่อการกินอย่างต่อเนื่อง หากินได้ง่าย ดีต่อการย่อยอาหารและอยู่ท้อง เป็นอีกเมนูสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก จึงมีประโยชน์ต่อการรักษาสมดุลของลำไส้และการทำงานของอินูลินมาก
5. หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง เป็นพืชที่หากนำมากินจะได้รับอินูลินอยู่ 2.5 กรัม ต่อหน่อไม้ฝรั่งทุก 100 กรัม หน่อไม้ฝรั่งหาได้ง่ายและนิยมต่อการนำไปปรุงอาหารเมนูต่าง ๆ โดยนอกจากการมีอินูลินสูงแล้ว หน่อไม้ฝรั่งยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร การกินหน่อไม้ฝรั่งเพื่อการเพิ่มปริมาณอินูลินในร่างกายจึงเป็นการเพิ่มความสมดุลของลำไส้และกระตุ้นประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารที่ดี
ปัจจุบัน “อินูลิน” ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มปริมาณใยอาหารและมีคุณสมบัติในการเป็น “พรีไบโอติก” ที่ดีต่อสุขภาพลำไส้ ซึ่งในผลิตภัณฑ์จาก Body Shape เอง ก็มีส่วนผสมของอินูลินอยู่ด้วย เช่น Coffee L-Carnitine, Dark Chocolate และ Thai Tea Organic Chia Seed
เรียกได้ว่าอินูลินเป็นพรีไบโอติกที่น่าจับตามอง ด้วยศักยภาพในการส่งเสริมสุขภาพลำไส้และสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็น
- ส่งเสริมสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบย่อยอาหารที่ดี
- ปรับปรุงการขับถ่าย: เพิ่มปริมาณใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาท้องผูก
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและน้ำหนัก: มีส่วนช่วยในการชะลอการดูดซึมน้ำตาลและเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัว
-
เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มีส่วนช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด และอาจมีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคอินูลินในปริมาณที่เหมาะสมและค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และแหล่งโปรตีนที่ดี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
อ้างอิง
Gibson GR, Roberfroid MB. Dietary modulation of the human colonic microbiota: introducing the concept of prebiotics. (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/7782892/)
Guarner F, Malagelada JR. Gut flora in health and disease. Lancet. (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/12583961/)