ปัจจุบันคนไทยหลายคนเริ่มหันมาสนใจในสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มสุขภาพที่มีส่วนผสมแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อร่างกาย หลายคนอาจจะเคยสังเกตเห็นคำว่า "กัวร์กัม" (Guar Gum) บนฉลากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพบางชนิด หรือใครหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อของ “กัวร์กัม” เลยก็มี แม้ว่าชื่อของกัวร์กัมอาจฟังดูเหมือนสารเคมีสังเคราะห์ แต่กัวร์กัมกลับเป็นสารธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ 100% ด้วยคุณสมบัติอันน่าทึ่งและประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลาย กัวร์กัมกำลังกลายเป็นดาวเด่นในวงการโภชนาการ และมีแนวโน้มที่จะเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต ซึ่งบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับกัวร์กัมกันอย่างละเอียด ตั้งแต่ต้นกำเนิด ประโยชน์ ไปจนถึงเหตุผลที่กัวร์กัมถูกยกให้เป็นส่วนผสมสำคัญในเครื่องดื่มสุขภาพกันค่ะ
กัวร์กัม คืออะไร?
กัวร์กัม (Guar Gum) มีต้นกำเนิดจากถั่วกัวร์ (Guar Bean) หรือที่รู้จักกันในชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ไซโมปซิส เตตราโกโนโลบา (Cyamopsis tetragonoloba) เป็นพืชตระกูลถั่วอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหารโดยสารสำคัญของถั่วกัวร์อยู่ในเนื้อในเมล็ด (endosperm)
โดยเมล็ดกัวร์ประกอบด้วยสารประกอบที่เรียกว่า กัวราน (Guaran) ซึ่งเป็นโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนชนิดหนึ่ง ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดีเยี่ยม เมื่อผสมกับน้ำกัวร์กัมจะพองตัวและเกิดเป็นเจลที่มีความหนืดสูง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กัวร์กัมจึงถูกนำมาใช้เป็นสารเพิ่มความข้นหนืด (Thickener) สารคงตัว (Stabilizer) และสารช่วยทำให้เกิดการกระจายตัว (Emulsifier) ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย
ถั่วกัวร์เป็นพืชที่ปลูกได้ในเขตร้อนและกึ่งร้อน โดยมีการปลูกมากในประเทศอินเดีย ปากีสถาน และในบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา การสกัดกัวร์กัมทำได้โดยการแยกเอาเมล็ดจากฝัก ลอกเปลือกออก แล้วบดเอาเนื้อในเมล็ดมาผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อให้ได้ผงกัวร์กัมสีขาวหรือเหลืองอ่อน
ประโยชน์ของกัวร์กัม
กัวร์กัมเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ (Soluble Fiber) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพโดยรวม ประโยชน์ที่สำคัญของกัวร์กัมมีดังนี้
-
ช่วยลดระดับคอเลสเทอรอล กัวร์กัมสามารถจับกับกรดน้ำดีในลำไส้ ทำให้ร่างกายต้องดึงคอเลสเทอรอลจากตับมาสร้างกรดน้ำดีใหม่ ซึ่งส่งผลให้ระดับคอเลสเทอรอลรวมและคอเลสเทอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือดลดลงได้
-
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยคุณสมบัติในการทำให้เกิดเจล กัวร์กัมช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล
-
ส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย ในฐานะที่เป็นเส้นใยอาหาร กัวร์กัมช่วยเพิ่มปริมาณกากใยในอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ป้องกันอาการท้องผูก และส่งเสริมสุขภาพของลำไส้
-
ช่วยลดน้ำหนัก กัวร์กัมเมื่อดูดซับน้ำจะพองตัวในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และลดความอยากอาหาร ส่งผลให้การบริโภคอาหารโดยรวมลดลง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนัก
-
เป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) กัวร์กัมบางชนิด เช่น Partially Hydrolyzed Guar Gum (PHGG) ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก เป็นอาหารให้กับแบคทีเรียดีในลำไส้ (Probiotics) ซึ่งช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และส่งเสริมสุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน
ส่วนใหญ่เราจะพบเจอกัวร์กัมได้ที่ไหน
อย่างที่กล่าวไปแล้ว กัวร์กัมถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เราสามารถพบกัวร์กัมได้ใน
-
ผลิตภัณฑ์นม โยเกิร์ต ไอศกรีม นมเปรี้ยว : ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและเพิ่มความข้น
-
ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ขนมปัง เค้ก คุกกี้ : ช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นและยืดอายุการเก็บรักษา
-
ซอสและน้ำสลัด ซอสมะเขือเทศ มายองเนส น้ำสลัด : ใช้เป็นสารเพิ่มความข้น
-
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ : เครื่องดื่มไฟเบอร์ โปรตีนเชค น้ำผลไม้บางชนิด ใช้เป็นแหล่งใยอาหาร
-
ผลิตภัณฑ์อาหารปราศจากกลูเตน : ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของอาหารที่ไม่มีกลูเตน
ปริมาณการบริโภค โดยทั่วไปกัวร์กัมถือว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม การศึกษาบางชิ้นแนะนำปริมาณที่ 5-10 กรัมต่อวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น การลดคอเลสเทอรอลและการควบคุมระดับน้ำตาล แต่ถ้าบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง เช่น ท้องอืด หรือแก๊สในกระเพาะอาหารได้
ทำไมกัวร์กัมถึงเป็นส่วนผสมยอดนิยมในเครื่องดื่มสุขภาพ
อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ข้างต้นว่า พฤติกรรมการบริโภคของคนในปัจจุบันโดยเฉพาะคนที่ทำงานออฟฟิศ หรือทำงานเป็น routine เปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้คนบริโภคอาหารที่มีกากใยน้อยลง กัวร์กัมจึงเป็นวิธีง่าย ๆ ในการเสริมใยอาหารให้กับร่างกาย
โดยกัวร์กัมได้กลายเป็นส่วนผสมหลักในเครื่องดื่มสุขภาพด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ
-
คุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดี กัวร์กัมสามารถละลายในน้ำได้ง่าย ทำให้ง่ายต่อการผสมในเครื่องดื่ม และไม่ตกตะกอน ทำให้เครื่องดื่มมีเนื้อสัมผัสที่สม่ำเสมอ
-
เพิ่มความหนืดและเนื้อสัมผัส ในเครื่องดื่มบางชนิด เช่น โปรตีนเชค หรือสมูทตี้ กัวร์กัมช่วยเพิ่มความหนืด ทำให้เครื่องดื่มมีเนื้อสัมผัสที่น่ารับประทานมากขึ้น และรู้สึกอิ่มนานขึ้น
-
เป็นแหล่งของใยอาหาร ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับใยอาหารมากขึ้น กัวร์กัมเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการเพิ่มใยอาหารให้กับเครื่องดื่ม โดยไม่เปลี่ยนแปลงรสชาติหรือกลิ่นมากนัก
-
ประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร การเพิ่มกัวร์กัมในเครื่องดื่มสุขภาพช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ลดปัญหาท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหาที่คนจำนวนมากประสบอยู่
-
การควบคุมน้ำหนัก สำหรับเครื่องดื่มลดน้ำหนัก กัวร์กัมเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจ เพราะช่วยให้รู้สึกอิ่ม ทำให้การควบคุมปริมาณอาหารง่ายขึ้น
-
ความปลอดภัยและได้รับการยอมรับ กัวร์กัมได้รับการยอมรับว่าเป็นสารเติมแต่งอาหารที่ปลอดภัย (GRAS : Generally Recognized As Safe) โดยหน่วยงานกำกับดูแลอาหารและยาหลายแห่งทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตมั่นใจในการนำมาใช้นั้นเอง
ซึ่งใน Matcha plus Organic Chia Seed จาก Body Shape เองก็มีส่วนผสมของเมล็ดเจียออร์แกนิกและกัวร์กัม ที่จะช่วยเพิ่มใยอาหารให้คุณอิ่มสบายท้อง ไม่หิวบ่อย แถมยังดีต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย ที่สำคัญคือ แคลอรีเพียง 60 Kcal เท่านั้น ดื่มได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน ไม่ว่าจะชงดื่มตอนเช้าหรือระหว่างวันก็สดชื่น ได้สุขภาพดีไปเต็ม ๆ
สุดท้ายนี้ ถึงแม้กัวร์กัมจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะส่วนผสมสำคัญในเครื่องดื่มสุขภาพ ที่ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร ลดคอเลสเทอรอล ควบคุมน้ำตาล และคุมน้ำหนักได้ดี แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น การรักษาสุขภาพที่ดีนั้นต้องมาจากการดูแลองค์รวม ทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงอย่างยั่งยืนนั่นเองค่ะ
อ้างอิง
กัวร์กัมช่วยลดน้ำหนัก (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11403757/)
กัวร์กัมเป็นพรีไบโอติก (https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32354152/)