ข้ามไปที่เนื้อหา
เข้าสู่ระบบ
0

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Superfood กันก่อน ซูเปอร์ฟูด (Superfood) คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มอาหารที่ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับปริมาณที่บริโภค หรือเมื่อเทียบกับอาหารทั่วไปนั่นเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้มีข้อกำหนดหรือนิยามที่เป็นทางการจากหน่วยงานด้านสุขภาพใด ๆ ที่ระบุชัดเจนว่าอาหารชนิดใดบ้างที่จัดเป็นซูเปอร์ฟูด แต่โดยทั่วไปแล้ว คำนี้จะถูกใช้เพื่ออ้างถึงอาหารที่  

  • มีสารอาหารหนาแน่นสูง : ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร โปรตีน หรือไขมันดี
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง : ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และความเสื่อมของเซลล์
  • มีสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) : สารประกอบจากพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค: และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง
  • มักเป็นอาหารที่ได้จากธรรมชาติ: โดยตรง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ แต่ก็อาจรวมถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์บางชนิด เช่น ปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน

และใช่ค่ะ เมล็ดเจียเมล็ดจิ๋ว ๆ ที่ใครหลาย ๆ คนรู้จัก ก็ถูกจัดให้เป็น "ซูเปอร์ฟูด" (Superfood) เช่นกัน เนื่องจากเมล็ดเจียนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการที่หนาแน่นและหลากหลายในปริมาณที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับอาหารอื่น ๆ แม้เมล็ดจะเล็กจิ๋ว แต่ก็อัดแน่นไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ส่งเสริมสุขภาพโดยรวมได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียวนะ

และนี่คือเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เมล็ดเจียได้รับฉายาว่าเป็นซูเปอร์ฟูด

  1. ในเมล็ดเจียมีใยอาหารสูงมาก
  • ในเมล็ดเจียอุดมไปด้วยใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
  • ใยอาหารที่ละลายน้ำ เมื่อผสมกับของเหลวเมล็ดเจียจะพองตัวเป็นเจล ช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น และช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน
  • ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ เสริมการขับถ่ายให้เป็นปกติ ป้องกันท้องผูก และรักษาสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรง
  1. ในเมล็ดเจียถือเป็นแหล่งโอเมกา 3 จากพืชที่ดีที่สุด
  • เมล็ดเจียเป็นแหล่งของกรดไขมันอัลฟา-ไลโนเลนิก (ALA) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมกา 3 ที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งในโอเมกา 3 มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ลดการอักเสบในร่างกาย ดีต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท
  1. ในเมล็ดเจียมีโปรตีนคุณภาพดี
  •  เมล็ดเจียมีโปรตีนประมาณ 14-20% ของน้ำหนัก ซึ่งสูงกว่าธัญพืชหลายชนิด นอกจากนี้ยังถือเป็น โปรตีนสมบูรณ์ (Complete Protein) สำหรับพืช เนื่องจากในเมล็ดเจียมีกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด ซึ่งหาได้ยากในโปรตีนจากพืช จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือวีแกน
  1. ในเมล็ดเจียอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  • เมล็ดเจียมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น กรดคลอโรจีนิก (chlorogenic acid), กรดคาเฟอิก (caffeic acid), เควอร์เซติน (quercetin) และเคมเฟอรอล (kaempferol) ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมของเซลล์และโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และความผิดปกติทางระบบประสาท
  1. เมล็ดเจียเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ
  • เมล็ดเจียแม้จะเห็นว่าเมล็ดจะเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ก็มีแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด เช่น
  • แคลเซียม : สูงกว่านมวัวในปริมาณที่เท่ากัน ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
  • แมกนีเซียม : จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
  • ฟอสฟอรัส : สำคัญต่อกระดูกและพลังงานของเซลล์
  • แมงกานีส : มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญ
  • ธาตุเหล็ก : ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
  • รวมถึงวิตามินบีบางชนิด
  1. เมล็ดเจียสามารถทานง่ายและหลากหลาย
  • เมล็ดเจียมีรสชาติอ่อน ๆ จึงสามารถนำไปผสมกับอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายโดยไม่เปลี่ยนรสชาติหลัก ส่วนใหญ่มักจะนำไปใส่ในสมูทที ทำพุดดิ้งเจีย หรือแม้แต่ในอาหารเช้ายอดฮิตอย่าง Overnight Oats เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ ไม่แปลกใจเลยใช่มั้ยล่ะว่าทำให้เมล็ดเจีย ซึ่งถูกจัดให้เป็นซูเปอร์ฟูด เพราะเมล็ดเจียเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงในปริมาณน้อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน จึงได้รับการยอมรับว่าเป็น "ซูเปอร์ฟูด" ที่ควรค่าแก่การเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารประจำวันนั้นเอง

ส่วนปริมาณที่บริโภคต่อวันนั้นอยู่ที่ 12-30 กรัม (ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ) ใครที่อยากลองจะลองทานเมล็ดเจีย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงละก็ ให้ลองเมล็ดเจียจาก Body Shape เลย เพราะมีแบบซองขนาด 12 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละมื้อ สะดวก พกง่าย ไม่ต้องตักไม่ต้องตวง ที่สำคัญหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven แต่ถ้าใครที่ทานเป็นประจำอยู่แล้ว Body Shape ก็มีแบบกล่อง 400 กรัม สามารถทานได้แบบจุใจเลยทีเดียว ที่สำคัญเราได้คัดสรรเมล็ดเจียเกรดพรีเมียมจากแหล่งเพาะปลูกดั้งเดิมในประเทศเปรู ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกจากทั้ง USDA และ EU Organic จึงมั่นใจในคุณภาพด้วยกระบวนการคัดกรองถึง 3 ขั้นตอน เพื่อขจัดเศษฝุ่น สิ่งปนเปื้อน ทำให้ได้เมล็ดเจียที่สะอาดและบริสุทธิ์ พร้อมรับประทานได้ทันที

ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ว่าเมล็ดเจียจะมีประโยชน์มากมาย แต่สิ่งสำคัญคือ ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม

รถเข็น

ขณะนี้รถเข็นของคุณว่างเปล่า

เริ่มช้อปปิ้ง

เลือกตัวเลือก